คอร์สอบรมครูโยคะ

คอร์สแอชทังก้า หรือ อัษฎางคโยคะ  

(Ashtanga)

แอชทังก้า (Ashtanga) หรือตามตำราไทยเรียกว่า อัษฎางคโยคะ เป็นโยคะดั้งเดิมมาจากอินเดีย ก่อตั้งโดยท่านกูรูจี ศรีกฤษณะ ปัตตาภิ โชอิส  (Sri K Pattabhi Jois)  เป็นโยคะที่เผาผลาญพลังงานมาก ๆ  เน้นที่การหายใจเข้าออก พร้อมการเคลื่อนไหวเข้าท่า  โดยทุก ๆท่า หรือทุก ๆ อาสนะจะมีการเชื่อมต่อจากท่าหนึ่งไปสู่อีกท่าหนึ่ง ที่เรียกว่า วินยาสะ

คอร์สอบรมจะเน้นสำหรับผู้เรียนที่ต้องการค้นหาตัวเอง และการฝึกในขั้นลึก  นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้เรียนที่ต้องการเรียนรู้เทคนิคการสอน และสัมผัสกับประสบการณ์แอชทังก้าแบบดั้งเดิม ผู้ที่จะเรียนคอร์สนี้ควรมีเตรียมตัวฝึกแอชทังก้า ก่อนที่จะร่วมคอร์สอย่างน้อย 1 เดือน และมีความคุ้นเคยกับอาสนะต่างๆในซีรี่ยส์แรก คือ ไพรมารี่ ซีรี่ยส์ (Primary series)

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมคอร์สนี้ ได้แก่ อาสนะ การจัดระเบียบร่างกายพร้อมรายละเอียดเชิงลึก การจัดระเบียบร่างกายด้วยการใช้มือ การออกคำสั่งทางวาจา การประยุกต์ท่าอาสนะให้เหมาะสมกับร่างกายผู้เรียนแต่ละคน การฝึกพันธะ ปราณายามะ การชำระล้างร่างกายทางอายุรเวท การฝึกสมาธิ และการฝึกสอน

ในการเรียนรู้การจัดระเบียบร่างกายด้วยการใช้มือ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การจัดระเบียบเชิงลึกในทุก ๆอาสนะของแอชทังก้า ซีรี่ยส์แรก

ประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับจากคอร์สอบรมครูโยคะได้แก่

  • ร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้นจากการฝึกอาสนะ โดยเน้นพื้นฐานของการจัดระเบียบร่างกายที่ถูกต้อง
  • ร่างกายมีความยืดหยุ่น ยืด เหยียดได้มากขึ้นในทุก ๆอาสนะ จากการช่วยปรับอาสนะอย่างปลอดภัย นุ่มนวลโดยครูผู้สอน
  • การหายใจมีความผ่อนคลาย ลมหายใจมีความยาวและลึกมากขึ้น ด้วยเทคนิคของการใช้หลักปราณายามะ
  • ได้ประสบการณ์แห่งความสุข สงบจากการปฏิบัติสมาธิ
  • เข้าใจถึงหลักปรัชญาโยคะ และเรียนรู้ความเป็นมาของโยคะจากประวัติศาสตร์
  • เรียนรู้ถึงการประสาน กาย ใจ จิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียว โดยผ่านบทสวดมันตราต่าง ๆ

 

คอร์สแอชทังก้า (Ashtanga) หรือ อัษฎางคโยคะ  100 ชั่วโมง

คอร์สนี้เหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีเวลาจำกัด มีความต้องการที่จะฝึกและเรียนรู้ในเชิงลึก แต่ไม่มีความต้องการที่จะสอนโยคะ หรือเหมาะสำหรับผู้เรียนที่ต้องการเก็บจำนวนชั่วโมงเพิ่มเติมจากที่ได้เรียนมาก่อน เพื่อปรับใบประกาศนียบัตรในระดับที่สูงขึ้นไป

 

คอร์สแอชทังก้า (Ashtanga) หรือ อัษฎางคโยคะ  200 ชั่วโมง

คอร์สนี้เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ต้องการเพิ่มความชำนาญและความมั่นใจในการเป็นครูโยคะ และเพื่อปรับเปลี่ยนพัฒนาตัวเองในการฝึกปฏิบัติในวิถีของโยคีขั้นที่สูงขึ้นไป เมื่อจบคอร์สแอชทังก้า (Ashtanga) หรือ อัษฎางคโยคะ  200 ชั่วโมงแล้ว ผู้เรียนจะได้รับใบประกาศนียบัตรการอบรมคอร์สครู 200 ชั่วโมง (RYT 200) ซึ่งรับรองจากองค์กรโยคะสากล ประเทศสหรัฐอเมริกา (Yoga Alliance, USA) ซึ่งสามารถสอนโยคะได้ทั่วโลก

 

ค่าลงทะเบียน

คอร์สแอชทังก้า (Ashtanga) หรือ อัษฎางคโยคะ  100 ชั่วโมง: 35,000 บาท

คอร์สแอชทังก้า (Ashtanga) หรือ อัษฎางคโยคะ  200 ชั่วโมง: 50,000 บาท

  • ค่าลงทะเบียนรวมที่พัก (ห้องพักรวม มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ อ่างล้างหน้า ห้องแต่งตัว พร้อมที่เก็บสัมภาระส่วนตัวแบบล็อคกุญแจได้ ปลั๊กไฟและไฟอ่านหนังสือหัวเตียงแบบส่วนตัว) อาหารมังสวิรัติ 2 มื้อ (มื้อสาย และมื้อเย็น) ชา-กาแฟ และอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอน ได้แก่ หนังสือ กาล้างจมูก สมุด ปากกา และเสื้อยืด
  • ผู้เรียนที่ต้องการพักห้องพักแบบห้องเดี่ยว สามารถเพิ่มค่าห้องจำนวน 12,000 บาท (สำหรับคอร์สเรียน 200 ชั่วโมง) หรือ 6,000 บาท (สำหรับคอร์สเรียน 100 ชั่วโมง)
  • ค่าลงทะเบียนรวมแถม ทริปพาเที่ยวเชียงใหม่ 1 วัน (ทริปพาเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกขึ้นอยู่กับสถานการณ์)
  • ค่าลงทะเบียนไม่รวมค่าเดินทาง อาทิ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าบริการรับส่งสนามบิน
  • ค่าธรรมเนียมไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวทุกประเภท
  • ผู้เรียนควรนำเสื่อโยคะ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าขนหนู ภาชนะบรรจุน้ำดื่ม ของใช้ส่วนตัวและยาประจำตัวมาเอง

ตารางการเรียนประจำวัน

ตารางเรียนประมาณ 8-12 ชั่วโมงต่อวัน ดังต่อไปนี้

  • 06:30 – 08:30 — การฝึกอาสนะ [แอชทังก้า (Ashtanga) หรือ อัษฎางคโยคะ] 
  • 09:00 – 10:00 — ปราณายามะ / สมาธิ / การสวดมันตรา
  • 10:00 – 12:00 — อาหารมื้อเช้า / อาหารมื้อสาย / เวลาพัก / ทำการบ้าน
  • 12:00 – 14:00 — หลักสำคัญของโยคะ / ปรัชญาโยคะ / โยคะสูตร / กายวิภาคและสรีรวิทยาทางโยคะ
  • 14:00 – 15:00 — พักผ่อน
  • 15:00 – 16:30 — การจัดระเบียบร่างกายพร้อมรายละเอียดเชิงลึก / การจัดระเบียบร่างกายด้วยการใช้มือ
  • 16:30 – 17:30 — พักผ่อน
  • 17:30 – 19:00 — การฝึกอาสนะ / โยคะนิทรา
  • 19:15 – 22:30 — อาหารมื้อเย็น / เวลาพักผ่อน / ทำการบ้าน
  • 22:30 – 06.00 — นอน
*ตารางการเรียนอาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สภาพอากาศตามฤดูกาลนั้น ๆ
Back To Top